Artwork

Player FM - Internet Radio Done Right
Checked 17h ago
تمت الإضافة منذ قبل three أعوام
المحتوى المقدم من Soul Food Ministries. يتم تحميل جميع محتويات البودكاست بما في ذلك الحلقات والرسومات وأوصاف البودكاست وتقديمها مباشرة بواسطة Soul Food Ministries أو شريك منصة البودكاست الخاص بهم. إذا كنت تعتقد أن شخصًا ما يستخدم عملك المحمي بحقوق الطبع والنشر دون إذنك، فيمكنك اتباع العملية الموضحة هنا https://ar.player.fm/legal.
Player FM - تطبيق بودكاست
انتقل إلى وضع عدم الاتصال باستخدام تطبيق Player FM !
icon Daily Deals

สดแต่เช้า Ep.304 หมอฟันของพระเจ้า!

5:26
 
مشاركة
 

Manage episode 463630501 series 3264869
المحتوى المقدم من Soul Food Ministries. يتم تحميل جميع محتويات البودكاست بما في ذلك الحلقات والرسومات وأوصاف البودكاست وتقديمها مباشرة بواسطة Soul Food Ministries أو شريك منصة البودكاست الخاص بهم. إذا كنت تعتقد أن شخصًا ما يستخدم عملك المحمي بحقوق الطبع والنشر دون إذنك، فيمكنك اتباع العملية الموضحة هنا https://ar.player.fm/legal.

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (304)

หมอฟันของพระเจ้า!

“ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า

‘ตาแทนตา และฟันแทนฟัน’

ส่วนเราบอกพวกท่านว่า อย่าต่อสู้คน

ชั่ว ถ้าใครตบแก้มขวาของท่าน

ก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย”

~มัทธิว 5:38-39 THSV11

“ You have heard that it was said, ‘Eye for eye, and tooth for tooth.’

But I tell you, do not resist an evil person. If anyone slaps you on the right cheek, turn to them the other cheek also.”

~Matthew 5:38-39 NIV

มาร์ติน ลูเธอร์ คิง กล่าวว่า

“ ถ้าเราใช้ระบบตาแทนตาและฟันแทนฟัน

เราจะกลายเป็นประเทศชาติของคนตาบอดและคนฟันหลอ”

(If we do an eye for an eye and a tooth for a tooth,

we will be a blind and toothless nation.)

พระเยซูคริสต์ ทรงบัญชาไม่ให้เราทำชั่วตอบแทนคนชั่ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่า

1.ทำชั่วมากหรือ

2.เลวร้ายยิ่งกว่าที่คนอื่นกระทำต่อเรา

แต่ขอให้เราทำในสิ่งที่จะช่วยให้การตอบโต้หรือต่อสู้เลาะฟันกันและกันนั้น ยุติลงโดยเร็ว

(แม้ว่าเราอาจจะเสียเปรียบบ้างก็ตาม)

ดังนั้น แทนที่เราจะทำร้ายหรือทำลายฟันของผู้ใด

เราควรทำหน้าที่

1.ซ่อมแซม และ

2.รักษาฟัน

ซึ่งเปรียบเหมือนสัมพันธภาพที่มีต่อกัน จะดีกว่า!

ขอให้เรามาเป็นทันตแพทย์ของพระเจ้า ที่ใช้ความรู้ความสามารถและทักษะของเรา

ในการบรรเทา ช่วยเหลือและสร้างมิตรภาพกับคนทั้งหลายรวมทั้งคนไข้และศัตรูของเรา

และ ถ้าเราเป็นทันตแพทย์มืออาชีพจริงๆ

ก็ขอให้คำอธิษฐานต่อไปนี้ เป็นคำอธิษฐานจากความตั้งใจของเรา

คำอธิษฐานของทันตแพทย์

~Dentist’s Prayer~

(Ramona K.Cecil เขียน; ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ แปล)

“ ข้าแต่พระเจ้า...

ขอสถิต ชิดใกล้ ในทุกวัน

ยามข้าฯนั้น ทำทันต์ บริการ

เพื่อคนไข้ ผู้วางใจ ได้ชื่นบาน

สุขสำราญ สมชื่อ มือนิ่มนวล

(Lord, be with me daily as I practice dentistry.

May I treat with gentle hands all who put their trust in me.)

“ขอให้ข้า มั่นใจ ในอุ้งหัตถ์

ช่วยขจัด หวั่นใจ ในตัวเขา

ให้กังวล ผู้ใหญ่ ได้แบ่งเบา

ให้ผู้เยาว์ น้ำตา ลาหายไป

(May my calm assurance help to ease their fears,

To relax the tense adults and dry the children's tears.)

“ขอให้ข้า เก่งกล้า น่าศรัทธา

พร้อมรับหน้า บรรดา เคสยากยาก

เพียงอดทน แก้ไข ไม่ลำบาก

ปากต่อปาก พอใจ ในฝีมือ

(May I treat each patient with competence and skill,

whether a difficult procedure or a tooth that I must fill.)

“ขอให้ข้า รักษา เยียวยาเลิศ

ปัญญาเกิด วินิจฉัย ได้ถูกต้อง

พระสถิต กิจชำนาญ งานแคล่วคล่อง

ยิ้มสวยของ คนไข้ ใช่รางวัล!

(As I diagnose and treat, Lord, be with me all the while,

and reward me with my patient's lovely, healthy smile.)

…เป็นอย่างนี้

จะอาเมนไหมครับ?

~~~~~~~~~~~~~~~

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

29มกราคม 2025

#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า

#หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify

  continue reading

947 حلقات

Artwork
iconمشاركة
 
Manage episode 463630501 series 3264869
المحتوى المقدم من Soul Food Ministries. يتم تحميل جميع محتويات البودكاست بما في ذلك الحلقات والرسومات وأوصاف البودكاست وتقديمها مباشرة بواسطة Soul Food Ministries أو شريك منصة البودكاست الخاص بهم. إذا كنت تعتقد أن شخصًا ما يستخدم عملك المحمي بحقوق الطبع والنشر دون إذنك، فيمكنك اتباع العملية الموضحة هنا https://ar.player.fm/legal.

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (304)

หมอฟันของพระเจ้า!

“ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า

‘ตาแทนตา และฟันแทนฟัน’

ส่วนเราบอกพวกท่านว่า อย่าต่อสู้คน

ชั่ว ถ้าใครตบแก้มขวาของท่าน

ก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย”

~มัทธิว 5:38-39 THSV11

“ You have heard that it was said, ‘Eye for eye, and tooth for tooth.’

But I tell you, do not resist an evil person. If anyone slaps you on the right cheek, turn to them the other cheek also.”

~Matthew 5:38-39 NIV

มาร์ติน ลูเธอร์ คิง กล่าวว่า

“ ถ้าเราใช้ระบบตาแทนตาและฟันแทนฟัน

เราจะกลายเป็นประเทศชาติของคนตาบอดและคนฟันหลอ”

(If we do an eye for an eye and a tooth for a tooth,

we will be a blind and toothless nation.)

พระเยซูคริสต์ ทรงบัญชาไม่ให้เราทำชั่วตอบแทนคนชั่ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่า

1.ทำชั่วมากหรือ

2.เลวร้ายยิ่งกว่าที่คนอื่นกระทำต่อเรา

แต่ขอให้เราทำในสิ่งที่จะช่วยให้การตอบโต้หรือต่อสู้เลาะฟันกันและกันนั้น ยุติลงโดยเร็ว

(แม้ว่าเราอาจจะเสียเปรียบบ้างก็ตาม)

ดังนั้น แทนที่เราจะทำร้ายหรือทำลายฟันของผู้ใด

เราควรทำหน้าที่

1.ซ่อมแซม และ

2.รักษาฟัน

ซึ่งเปรียบเหมือนสัมพันธภาพที่มีต่อกัน จะดีกว่า!

ขอให้เรามาเป็นทันตแพทย์ของพระเจ้า ที่ใช้ความรู้ความสามารถและทักษะของเรา

ในการบรรเทา ช่วยเหลือและสร้างมิตรภาพกับคนทั้งหลายรวมทั้งคนไข้และศัตรูของเรา

และ ถ้าเราเป็นทันตแพทย์มืออาชีพจริงๆ

ก็ขอให้คำอธิษฐานต่อไปนี้ เป็นคำอธิษฐานจากความตั้งใจของเรา

คำอธิษฐานของทันตแพทย์

~Dentist’s Prayer~

(Ramona K.Cecil เขียน; ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ แปล)

“ ข้าแต่พระเจ้า...

ขอสถิต ชิดใกล้ ในทุกวัน

ยามข้าฯนั้น ทำทันต์ บริการ

เพื่อคนไข้ ผู้วางใจ ได้ชื่นบาน

สุขสำราญ สมชื่อ มือนิ่มนวล

(Lord, be with me daily as I practice dentistry.

May I treat with gentle hands all who put their trust in me.)

“ขอให้ข้า มั่นใจ ในอุ้งหัตถ์

ช่วยขจัด หวั่นใจ ในตัวเขา

ให้กังวล ผู้ใหญ่ ได้แบ่งเบา

ให้ผู้เยาว์ น้ำตา ลาหายไป

(May my calm assurance help to ease their fears,

To relax the tense adults and dry the children's tears.)

“ขอให้ข้า เก่งกล้า น่าศรัทธา

พร้อมรับหน้า บรรดา เคสยากยาก

เพียงอดทน แก้ไข ไม่ลำบาก

ปากต่อปาก พอใจ ในฝีมือ

(May I treat each patient with competence and skill,

whether a difficult procedure or a tooth that I must fill.)

“ขอให้ข้า รักษา เยียวยาเลิศ

ปัญญาเกิด วินิจฉัย ได้ถูกต้อง

พระสถิต กิจชำนาญ งานแคล่วคล่อง

ยิ้มสวยของ คนไข้ ใช่รางวัล!

(As I diagnose and treat, Lord, be with me all the while,

and reward me with my patient's lovely, healthy smile.)

…เป็นอย่างนี้

จะอาเมนไหมครับ?

~~~~~~~~~~~~~~~

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

29มกราคม 2025

#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า

#หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify

  continue reading

947 حلقات

كل الحلقات

×
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (325) สตรีแกร่งในพระคัมภีร์(1) “มีหญิงคนหนึ่งในพวกที่ฟังเราชื่อลิเดีย นางมาจากเมืองธิยาทิรา เป็นคนขายผ้าสีม่วงและเป็นคนที่นับถือพระเจ้า หญิงคนนั้นมาฟังเรา และ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดใจของนางให้สนใจถ้อยคำที่เปาโลกล่าว” ~กิจการ 16:14 THSV11 “A woman named Lydia was present. She was a convert to Judaism from the city of Thyatira and sold purple dye for a living. She was listening because the Lord made her willing to pay attention to what Paul said.” ~Acts 16:14 GW มีคำกล่าวไว้ว่า “ คุณต้องยืนหยัดอย่างแข็งแรงเพื่อที่จะแข็งแกร่งได้ ในยามที่คุณเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากจะจัดการ” (You've got to stay strong to be strong in tough times.) ~Tilman J. Fertitta ใช่ครับ พี่น้องที่รัก เราต้องมีความแกร่ง เพราะ ความแกร่ง มีความสำคัญและความจำเป็น ต่อ 1. การดำเนินชีวิต 2.การประกอบอาชีพ 3.การบริหารจัดการ 4.การรับใช้ ความหมายของคำว่า “แกร่ง ” คือหมายความว่า 1.แข็ง, ไม่เสื่อมสภาพง่าย2. แข็งแรงพอที่จะทนทานกับ 1).สภาพการณ์ หรือ 2).เงื่อนไขที่ยาก หนัก นาน ลำบาก หรือเจ็บปวด ก.ในการจัดการหรือ ข.ในการทำให้สำเร็จ ในพระธรรมตอนนี้ นางลิเดีย ที่ชื่อมีความหมายว่า สวยงาม (beautiful) โดดเด่น( distinguished) มีเกียรติ(noble),มีชื่อเสียง(famous) เป็นตัวอย่าง ของนักธุรกิจสตรีที่แข็งแกร่ง เรื่องราวในพระคัมภีร์ดังนี้ “1.เราลงเรือจากโตรอัสตรงไปยังเกาะสาโมธรัส รุ่งขึ้นก็ถึงเมืองเนอาบุรี และ เมื่อออกจากที่นั่นแล้วก็ไปยังเมืองฟีลิปปีซึ่ง เป็นเมืองเอกในเขตแคว้นมาซิโดเนียและ เป็นอาณานิคมของโรมัน 2.เราจึงพักอยู่ในเมืองนั้นหลายวัน ในวันสะบาโต 3.เราออกจากประตูเมืองไปยังฝั่งแม่น้ำ เข้าใจว่ามีที่สำหรับอธิษฐาน 4.เราจึงนั่งสนทนากับพวกผู้หญิงที่ประชุมกันที่นั่น มี 1).หญิงคนหนึ่งในพวกที่ฟังเรา ~ชื่อลิเดีย นางมาจากเมืองธิยาทิรา ก.เป็นคนขายผ้าสีม่วงและ ข.เป็นคนที่นับถือพระเจ้า 2).หญิงคนนั้นมาฟังเรา 3).หญิงคนนั้นได้รับการเปิดใจโดยพระเจ้า (องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดใจของนาง)ให้สนใจถ้อยคำที่เปาโลกล่าว เมื่อ 4).หญิงคนนั้นกับครัวเรือนของนางได้รับบัพติศมา 5).หญิงนั้นอ้อนวอนเราว่า “ถ้าท่านทั้งหลายเห็นว่าข้าพเจ้าเป็นคนซื่อสัตย์ต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็ขอเชิญเข้ามาพักอาศัยในบ้านของข้าพเจ้าเถิด” 6).หญิงนั้นก็ได้วิงวอนจนเราขัดไม่ได้” -กิจการ 16:11-15 THSV11 สิ่งที่น่าประทับใจ จากพระธรรมตอนนี้ ก็คือ นักธุรกิจหญิง อย่างนางลิเดียนั้น ได้เป็นตัวอย่างที่ดี ให้เราได้รับรู้ในทุกวันนี้ ถึงสิ่งที่ ผู้หญิงในสมัยนี้ สามารถปฏิบัติตามได้ ดังนี้ 1.สามารถประกอบอาชีพหรือทำธุรกิจของตน 2.แสวงหาพระเจ้า 3.สนับสนุนคนของพระเจ้า 4.สนับสนุนงานของพระเจ้า พี่น้องที่รัก วันนี้ไม่ว่าเราเป็นนักธุรกิจหญิงหรือชาย เราก็สามารถกระทำได้อย่างที่ลิเดียทำเช่นกัน …เห็นด้วยไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 19กุมภาพันธ์2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี#SoulFoodPodcastsSpotify.…
 
พระธรรมนำชีวิต ตอน อนุสรณ์ของความสิ้นหวัง Ep.1193 เมื่อวานเรารู้จักกับ เอลีเมเลคและนาโอมีไปแล้ว วันนี้มารู้จักลูกๆของเขาเพิ่มเติม จากการค้นคว้าผมคิดว่า เอลีเมเลคตั้งชื่อลูกจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะความหวังของเขาในพระเจ้ามันหมดไปแล้ว ลูกคนแรกชื่อมาห์โลน มีความหมายว่า โรคภัยหรือความอ่อนแอ ส่วนอีกคนชื่อ คิลิโอน มีความหมายว่า ความพินาศ หรือความเสื่อมสลาย ชื่อของลูกทั้งสองอาจจะเป็นอนุสรณ์ของความสิ้นหวัง หรือความผิดหวังในพระเจ้า 'และบัดนี้ ทั้งสามสิ่งนี้ยังดำรงอยู่ คือความเชื่อ ความหวัง และความรัก แต่ความรักนั้นใหญ่ที่สุดในสามสิ่งนี้' 1 โครินธ์ 13:13 ขอให้ชีวิตของเราลูกพระเจ้าจะไม่หมดหวัง ขอให้เราดำรงชีวิตในความเชื่อที่มีในพระเยซู มีความหวังในพระเจ้า และมีชีวิตอยู่ในความรักที่มั่นคงของพระเจ้า สิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเอลีเมเลคหลังจากที่เขาทุกข์ท้อใจกับสถานการณ์นั้น จนละทิ้งพระเจ้าออกจากดินแดนแห่งพระสัญญาของพระองค์แล้ว 'แต่เอลีเมเลค สามีของนางนาโอมีตาย ทิ้งนางไว้กับบุตรชายทั้งสอง 'นางรูธ 1:3 'แล้วมาห์โลนและคิลิโอนก็ตาย เหลือแต่นาโอมีที่ต้องอยู่อย่างไม่มีสามีและบุตรชายทั้งสอง ' นางรูธ 1:5 'นาโอมีตอบเขาว่า “ขออย่าเรียกฉันว่านาโอมี เลย ขอเรียกฉันว่า มารา เถอะ เพราะว่าองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ได้ทรงทำให้ชีวิตฉันขมขื่นยิ่งนัก เมื่อฉันจากเมืองนี้ไป ฉันมีทุกอย่างครบบริบูรณ์ พระยาห์เวห์ทรงพาฉันกลับมาตัวเปล่า จะเรียกฉันว่านาโอมีทำไมเล่า? ในเมื่อพระยาห์เวห์ทรงให้ฉันทุกข์ใจ และองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ทรงให้ฉันต้องประสบเหตุร้ายเช่นนี้” ' นางรูธ 1:20-21 ทุกคนเสียชีวิต นาโอมีก็อยากจะเปลี่ยนชื่อตัวเองจากความรื่นรมย์ มาเป็นมารา คือความขม บทเรียนที่ผมได้รับคือ อย่าปล่อยให้ความผิดหวังในปัจจุบันมากำหนดอานาคตของเรา แม้สถานการณ์จะดูไม่มีหวังอะไรเลย แต่ในพระเจ้าเราจึงมีความหวังอยู่เสมอ ขอให้เราอดทนรอคอยวันเวลาของพระเจ้าที่กำลังจะมา ขอให้สายตาของเราจะเป็นสายตาเดียวกันกับพระเจ้าที่มองเห็นอนาคตนิรันดร์ที่เราจะได้รับรางวัลตามพระสัญญาของพระองค์ และอยู่กับพระเจ้าที่บ้านของพระองค์ตลอดกาล วุฒิ วงศ์สรรเสริญ…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (324) …แต่หากไร้รัก จะมีค่าอะไร? “แม้ข้าพเจ้าจะเผยพระวจนะได้ จะรู้ความล้ำลึกทุกอย่างและมีความรู้ทั้งสิ้น และแม้จะมีความเชื่อมากยิ่งที่จะย้ายภูเขาไปได้ แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีค่าอะไรเลย” ~1 โครินธ์ 13:2 THSV11 “I may have the gift to speak what God has revealed, and I may understand all mysteries and have all knowledge. I may even have enough faith to move mountains. But if I don’t have love, I am nothing.” ~1 Corinthians 13:2 GW พี่น้องที่รัก ถ้าเราทำสิ่งดีที่ยิ่งใหญ่ให้คนเห็น มนุษย์คงยกย่องสรรเสริญ แต่ พระเจ้าทรงทอดพระเนตรลึกลงไปกว่านั้นคือ พระองค์ทรงทอดพระเนตรที่หัวใจของเรา พระเจ้าไม่สนพระทัยว่าเราทำดีมากแค่ไหน แต่พระองค์ใส่พระทัยว่าเราใส่ความรักลงไปในสิ่งที่เราทำนั้น มากเพียงใดต่างหาก หากเราทำทุกสิ่งด้วยความรักพระเจ้าและรักคนทั้งหลาย พระเจ้าก็จะยกย่องเรา! ดังนั้น เราจึงควรถามตัวเราเองเสมอว่า 1.จะมีประโยชน์อะไร หากเรามีความสามารถพิเศษในการสื่อสาร ~แต่ไร้รัก “แม้ข้าพเจ้าจะพูดภาษาแปลกๆ ที่เป็นภาษามนุษย์หรือทูตสวรรค์ได้ แต่(ปราศจาก)ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าเป็นเหมือน(แค่)ฆ้องหรือ(ฉิ่ง)ฉาบ ที่กำลังส่งเสียง“ -1คร.13:1 2.จะมีประโยชน์อะไร หากเรามีของประทานในการเผยพระวจนะ หรือหยั่งรู้ในความจริงทุกเรื่อง ~แต่ไร้รัก “แม้ข้าพเจ้าจะ(มีของประทานในการ)เผยพระวจนะได้ จะ(สามารถ)รู้(หยั่งถึง)(เข้าใจใน)ความล้ำลึก(ทั้งปวง)ทุกอย่างและมีความรู้ทั้งสิ้น แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีค่าอะไรเลย ” -1คร.13:2ก. 3.จะมีประโยชน์อะไร หากเรามีความเชื่อมากยิ่งกว่าผู้ใด ~แต่ไร้รัก ”แม้จะมีความเชื่อมากยิ่ง(ที่สุดพอ)ที่จะ(ยก)(เคลื่อน)ย้ายภูเขาไปได้ แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีค่าอะไรเลย“ -1คร.13:2ข. 4..จะมีประโยชน์อะไร หากเรายอมสละให้ทุกอย่าง ~แต่ไร้รัก ”แม้ข้าพเจ้าจะ(สละของสารพัด)บริจาคสิ่งของ(ยกทรัพย์สินทั้งหมด)ของข้าพเจ้า ทุกอย่าง(ให้คนยากไร้)หรือยอม(พลีกาย)ให้เอาตัว(ข้าพเจ้า)ไปเผาไฟ(เสีย) แต่ไม่มีความรัก ก็จะไม่เป็นประโยชน์(เปล่าประโยชน์)กับข้าพเจ้า“ -1คร.13:3 ดังนั้นคำถามที่เราควรถามตัวเองอยู่เสมอก็คือว่า 1.จะมีประโยชน์มากขึ้นสักเท่าใด ~หากว่าเรามีความรัก ซึ่งมีคุณลักษณะต่อไปนี้ อยู่ในทุกสิ่งที่เราทำ “ความรักนั้นก็ 1).อดทนนานและ 2).มีใจปรานี (เมตตา/กระทำคุณให้) 3).ไม่อิจฉา 4).ไม่อวดตัว 5).ไม่หยิ่งผยอง 6).ไม่หยาบคาย 7).ไม่(คิด)เห็นแก่ตัว (ฝ่ายเดียว) 8).ไม่ฉุนเฉียว 9).ไม่ช่างจดจำความผิด 10).ไม่ชื่นชมยินดีในความอธรรม (ไม่ปีติในความชั่ว/ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อ มีการประพฤติผิด) 11).แต่ชื่นชมยินดี(เมื่อประพฤติชอบ)ในความจริง 12).ทนได้ทุกอย่าง (แม้ความผิดของคนอื่น/ปกป้องคุ้มครองเสมอ) 13).เชื่อ(ในส่วนดีของเขา)อยู่เสมอ (ไว้วางใจเสมอ) 14).มีความหวัง(อยู่เสมอ)และ 15).ความทรหดอดทน(บากบั่น)อยู่เสมอ(และทนต่อทุกอย่าง) -1คร.13:4-7 2.จะมีคุณค่ามากเพียงใด ~หากว่าเรามีความรักที่ไม่มีวันเสื่อมสูญอยู่ในชีวิตเราตลอดไป 1).แม้การเผยพระวจนะก็จะเสื่อมสลาย(เลิกรา)(สูญ)ไป 2).แม้การพูดภาษาแปลกๆ (นั้น)ก็จะ(มีเวลา)เลิกพูดกัน (เงียบหาย) 3).แม้วิชาความรู้ก็จะเสื่อมสลาย(ล่วงพ้น)(สูญ)ไป -1คร.13:8 3.จะเกิดอะไรที่ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ~ หากว่าเราคิด พูด(โพสต์) แสดงออก และกระทำทุกสิ่งด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ “และ(ฉะนั้น)บัดนี้ ทั้งสามสิ่งนี้ยัง(คง)ดำรงอยู่ คือความเชื่อ ความหวัง(ใจ) และความรัก แต่ความรักนั้น(ยิ่ง)ใหญ่ที่สุดในสามสิ่งนี้” -1คร.13:13 พี่น้องที่รัก 1.คุณกำลังภูมิใจกับ 1).ของประทาน ความสามารถ หรือ 2).การกระทำ ของคุณในเรื่องใดมากที่สุด? ทำไม? 2.คุณใช้สิ่งเหล่านั้นแสดงความรักอย่างสร้างสรรค์ ต่อผู้ ใดบ้าง? และอย่างไร? แล้วเกิดผลดีอะไรตามมาบ้าง? …ตอบที! ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 18กุมภาพันธ์2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี#SoulFoodPodcastsSpotify.…
 
พระธรรมนำชีวิต ตอน ขอให้สอบผ่าน Ep.1192 วันนี้เรามาเริ่มต้นพระธรรมนางรูธ พระธรรมเล่มนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับพระธรรมผู้วินิจฉัย 'ในสมัยที่พวกผู้วินิจฉัยครอบครองอยู่นั้น เกิดกันดารอาหารขึ้นในแผ่นดิน มีชายคนหนึ่งเป็นชาวเมืองเบธเลเฮมในยูดาห์ ไปอาศัยอยู่ในดินแดนโมอับพร้อมกับภรรยาและบุตรชายสองคน ' นางรูธ 1:1 พระธรรมเล่มนี้เริ่มต้นว่า “ในสมัยที่พวกผู้วินิจฉัยครอบครองอยู่นั้น” ตรงนี้ไม่ได้ระบุว่าเป็นใคร แต่มีผู้รู้หลายท่านได้ให้ข้อมูลจากการสืบค้นจากสภาพทางเศรษฐกิจและกฏหมายเรื่องการแต่งงานได้บอกว่าเป็นยุคที่ใกล้เคียงกับยุคของกิเดโอนหรือก่อนหน้านั้นเล็กน้อย 'ชายคนนั้นชื่อเอลีเมเลค ภรรยาชื่อนาโอมี บุตรสองคนชื่อมาห์โลนและคิลิโอน เป็นชาวเอฟราธาห์จากเมืองเบธเลเฮมในยูดาห์ พวกเขาเดินทางเข้าไปในดินแดนโมอับและอาศัยอยู่ที่นั่น ' นางรูธ 1:2 เรื่องราวนี้ระบุถึงครอบครัวที่มี 4 คน พ่อชื่อเอลีเมเลค แม่ชื่อนาโอมี ลูกสองคนชื่อมาห์โลนและคิลิโอน วันนี้เรามาทำความรู้จักกับพ่อและแม่ก่อน เริ่มจากแม่ นาโอมี มีความหมายว่า ความสุข หรือ ความรื่นรมย์ ส่วนเอลีเมเลค ชื่อของเขาในภาษาฮีบรู มาจากสองคำว่า เอล (אֵל) พระเจ้า และ เมเลค (מֶלֶךְ) กษัตริย์ เอลีเมเลคจึงแปลว่า พระเจ้าทรงเป็นกษัตริย์ แต่น่าเสียดายที่ชีวิตของเขาไม่ได้ยืนยันความไว้ใจในพระเจ้าผู้เป็นกษัตริย์ในชีวิต เมื่อเขาเจอสถานการณ์ความยากลำบากจึงตัดสินใจที่จะทิ้งดินแดนแห่งพระสัญญาของพระเจ้าออกไปยังโมอับ 'คนที่สู้ทนต่อการทดลองใจก็เป็นสุข เพราะเมื่อเขาผ่านการทดสอบแล้ว เขาจะได้รับมงกุฎแห่งชีวิตที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้กับคนทั้งหลายที่รักพระองค์ ' ยากอบ 1:12 ก่อนที่พระวิญญาณของพระเจ้าจะนำให้ท่านยากอบบอกเราแบบนั้นท่านได้เริ่มต้นว่า หากเราพบกับการทดสอบ ทดลองใจต่างๆ ก็ให้ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะการทดสอบความเชื่อนั้นจะทำให้เกิดความทรหดอดทน และความทรหดอดทนนั้นจะทำให้เราเป็นคนที่สมบูรณ์และดีพร้อมโดยไม่ขาดสิ่งใดเลย ในวันที่ยากลำบากนั้นให้เราพึ่งพาพระเจ้าที่เป็นเจ้าของเรา ให้อดทนจนถึงที่สุดเพื่อเราจะได้รับรางวัลคือมงกฎแห่งชีวิตที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้กับคนทั้งหลายที่รักพระองค์ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เราจะทรหดอดทนจนเราสอบผ่านการทดสอบ ทดลองใจต่างๆไปด้วยกัน วุฒิ วงศ์สรรเสริญ…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (323) จงให้เกียรติตัวเอง ก่อนที่จะให้เกียรติคนอื่น! “จงให้เกียรติทุกคน จงรักพวกพี่น้อง จงยำเกรงพระเจ้า จงถวายเกียรติแด่จักรพรรดิ” ~1 เปโตร 2:17 THSV11 “Show respect for all people [treat them honorably], love the brotherhood [of believers], fear God, honor the king.” ~1 Peter 2:17 AMP คุณเห็นด้วยหรือไม่ว่า “การให้เกียรติเป็นการแสดงออกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของความรัก!” "Respect is one of the greatest expressions of love." — Don Miguel Ruiz และคุณเห็นด้วย อีกหรือไม่ที่ว่า “ฉันไม่สนหรอกว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบฉัน ทั้งหมดที่ฉันขอก็คือ คุณจงให้เกียรติฉันในฐานะเป็นมนุษย์คนหนึ่ง!” "I'm not concerned with your liking or disliking me... All I ask is that you respect me as a human being." — Jackie Robinson ใช่ครับทุกคน ตั้งแต่ขอทานผู้ยากจน จนถึงพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมั่งคั่ง คนทุกคนล้วนต้องการ การให้เกียรติต่อเขาหรือต่อพระองค์! แต่แท้จริงแล้ว ก่อนที่เราจะเรียกร้องให้ใครให้เกียรติกับเรา เราต้องรู้จักให้เกียรติแก่ตัวของเราเองก่อน! เหมือนคำกล่าวที่ว่า “ถ้าคุณต้องการให้คนอื่นให้เกียรติแก่คุณ สิ่งสำคัญก็คือจงให้เกียรติตัวคุณเองก่อน เพราะมีแต่โดยการให้เกียรติตัวคุณเองเท่านั้น คุณจึงจะทำให้คนอื่นยอมให้เกียรติแก่คุณ!” "If you want to be respected by others, the great thing is to respect yourself. Only by that, only by self-respect will you compel others to respect you.” — Fyodor Dostoevsky ขอพูดซ้ำอีกครั้งว่า การให้เกียรติตัวเราเอง และการให้เกียรติผู้อื่นนั้น สำคัญยิ่งเพราะว่า “การให้เกียรติตัวเอง จะนำให้เรามีศีลธรรม การให้เกียรติคนอื่น จะนำให้เรามีมารยาท!” "Respect for ourselves guides our morals, respect for others guides our manners." — Laurence Sterne ด้วยเหตุนี้ อย่าให้เราทำอะไร ที่ทำให้ตัวเอง 1).ไม่มีเกียรติ 2).ไม่คู่ควรกับเกียรติ 3).เสื่อมและเสียเกียรติที่ได้รับมา หรือ 4).ไปหลู่เกียรติผู้อื่น และหากว่าเราอยู่ในสภาวะใดสภาวะหนึ่งเช่นนั้น “เราต้องปรับปรุงแก้ไข ไม่ใช่เอาแต่แก้ตัว เราต้องแสวงหาการคู่ควรกับเกียรติ ไม่ใช่หาแต่ความสนใจ!” "Make improvements, not excuses. Seek respect, not attention." — Roy T. Bennett ดังนั้นพี่น้องที่รัก เวลานี้ ให้เรามา 1.พูดจา หรือโพสต์ 2.แสดงออก หรือ 3.กระทำ ทุกสิ่งที่ 1).ให้เกียรติตัวเราเอง และ 2).ให้เกียรติผู้อื่น ที่ทำให้ตัวเราและทุกๆคนล้วนมีความสุขและความยินดี …จะดีไหมครับ ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 16กุมภาพันธ์2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความ…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (322) รักของพระเยซูคริสต์นั้นเป็นเช่นไร? “ข้าพเจ้าทูลขอให้ท่านสามารถเข้าใจร่วมกับธรรมิกชนทั้งหมดถึง ความกว้าง ความยาว ความสูง และความลึก คือให้ซาบซึ้งในความรักของพระคริสต์ ซึ่งเกินความรู้ เพื่อพวกท่านจะได้รับความบริบูรณ์ของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม” ~เอเฟซัส 3:18-19 THSV11 “This way, with all of God’s people you will be able to understand how wide, long, high, and deep his love is. You will know Christ’s love, which goes far beyond any knowledge. I am praying this so that you may be completely filled with God.” ~Ephesians 3:18-19 GW น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก ที่ความรักของพระเยซูคริสต์เจ้า นั้น ทั้ง 1.กว้าง 2.ยาว 3. สูง และ 4.ลึก เกินกว่าที่เราจะหยั่งรู้ได้หมดจริงๆ! พระคัมภีร์ได้พรรณนา ความรักของพระเยซูคริสต์ไว้ดังนี้ 1.พระเยซูคริสต์ทรงรักพระบิดา และพร้อมที่จะกระทำตามที่พระองค์ทรงบัญชา “แต่เราทำตามที่พระบิดาทรงบัญชาเรา เพื่อโลกจะได้รู้ว่าเรารักพระบิดา ลุกขึ้นให้เราไปกันเถิด” ~ยอห์น 14:31 THSV11 2.พระเยซูคริสต์ทรงรักเรา และทรงรักเราจนถึงที่สุด “ก่อนถึงงานเทศกาลปัสกา พระเยซูทรงทราบว่าถึงเวลาแล้ว ที่พระองค์จะทรงจากโลกนี้ไปหาพระบิดา พระองค์ทรงรักบรรดาคนของพระองค์ที่อยู่ในโลกนี้ พระองค์ทรงรักเขาทั้งหลายจนถึงที่สุด” ~ยอห์น 13:1 THSV11 3.พระเยซูคริสต์ทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เรา แม้แต่ในขณะที่เราเป็นคนบาปหนา “แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เรา คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อเรา” ~โรม 5:8 THSV11 4.พระเยซูคริสต์ทรงรักเรา และปลดปล่อยเราจากบาปด้วยพระโลหิตและความตายของพระองค์ “และจากพระเยซูคริสต์พยานผู้ซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นผู้แรกที่ทรงเป็นขึ้นจากตาย และเป็นผู้ทรงครอบครองเหนือบรรดากษัตริย์ในโลก พระองค์ทรงรักเรา ทรงปลดปล่อยเราจากบาปของเราด้วยพระโลหิตของพระองค์” ~วิวรณ์ 1:5 THSV11 5.พระเยซูคริสต์ทรงรักเราด้วยความรัก ที่ไม่มีใครหรือสิ่งใดจะพรากเราไปจากความรักนั้นได้ “หรือซึ่งสูง หรือซึ่งลึก หรือสิ่งใดๆ อื่นที่ได้ทรงสร้างแล้วนั้น จะไม่สามารถทำให้เราขาดจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้” ~โรม 8:39 THSV11 6.พระเยซูคริสต์จะทรงรัก และสำแดงพระองค์แก่คนที่ประพฤติตามบัญญัติของพระองค์ “ใครที่มีบัญญัติของเราและประพฤติตามบัญญัติเหล่านั้น คนนั้นเป็นคนที่รักเรา และคนที่รักเรานั้นพระบิดาของเราจะทรงรักเขา และเราจะรักเขาและจะสำแดงตัวให้ปรากฏแก่เขา”” ~ยอห์น 14:21,23 THSV11 7.พระเยซูคริสต์ทรงรักเรา แบบเดียวกับที่พระบิดาทรงรักพระบุตร “พระบิดาทรงรักเราอย่างไร เราก็รักพวกท่านอย่างนั้น จงติดสนิทอยู่กับความรักของเรา” ~ยอห์น 15:9 THSV11 8.พระเยซูคริสต์รักคริสตจักรอย่างไร เราก็ควรรักกันและกันอย่างนั้น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามีต่อภรรยา) “ส่วนสามีก็จงรักภรรยาของตน เหมือนพระคริสต์ทรงรักคริสตจักร และประทานพระองค์เองเพื่อ คริสตจักร” ~เอเฟซัส 5:25 THSV11 พี่น้องที่รัก เวลานี้ คุณมีประสบการณ์กับความรักของพระเยซูคริสต์เจ้าในมิติไหนบ้าง? 1.กว้าง 2.ยาว 3. สูง และ 4.ลึก แค่ไหน และส่งผลกระทบอะไรและอย่างไร ต่อ 1).ชีวิตของคุณ 2).คนในครอบครัวของคุณ และ 3).คนในคริสตจักรของคุณบ้าง? …ช่วยตอบที! ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 16กุมภาพันธ์2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี#SoulFoodPodcastsSpotify.…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (321) อย่าร่วมวงกับคนอย่างนี้! “แต่ข้าพเจ้าเขียนบอกท่านว่า ถ้าผู้ใดได้ชื่อว่าเป็นพี่น้องแล้ว แต่ยังล่วงประเวณี เป็นคนโลภ เป็นคนถือรูปเคารพ เป็นคนปากร้าย เป็นคนขี้เมา หรือเป็นคนฉ้อโกง อย่าคบคนอย่างนั้น แม้จะกินด้วยกันก็อย่าเลย” ~1 โครินธ์ 5:11 TH1971 “I was talking about your own people who are immoral or greedy or worship idols or curse others or get drunk or cheat. Don't even eat with them!” ~1 Corinthians 5:11 CEV อาจารย์เปาโลกล่าวว่ามีคนบางคนหรือบางประเภทที่เราไม่ควรคบหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่น้องแต่ยังทำสิ่งต่อไปนี้ อาทิ 1.เป็นคนล่วงประเวณี 2.เป็นคนโลภ 3.เป็นคนถือรูปเคารพ 4.เป็นคนปากร้าย 5.เป็นคนขี้เมา หรือ 6.เป็นคนฉ้อโกง คนประเภทนี้ ไม่เพียงไม่ควรคบหา แต่แม้จะกระทั่งจะกินด้วยกัน ก็อย่าเลย! ผู้เขียนพระธรรมสดุดีก็กล่าวในทำนองเดียวกันกับคนที่ทำตัวเหมือน รู้จักพระเจ้าหรือคำสอนของพระองค์แต่ประพฤติตัวตรงกันข้าม ว่า “แต่พระเจ้าตรัสกับคนอธรรมว่า ‘เจ้ามีสิทธิ์อะไรที่ 1.จะท่องกฎเกณฑ์ของเรา หรือ 2.จะรับปากตามพันธสัญญาของเรา? (รับพันธสัญญาของเราด้วยปากของเจ้า?) เพราะ 1).เจ้าเกลียดวินัย 2).เจ้าเหวี่ยงคำของเราไว้ข้างหลังเจ้า 3).เจ้าเห็นโจรขโมย เจ้าก็คบเขา 4).เจ้าเข้าสังคมกับคนล่วงประเวณี 5).เจ้าปล่อย ก.ปากของเจ้าให้พูดชั่ว และ ข.ลิ้นของเจ้าประกอบ(ปั้น)การหลอกลวง 6).เจ้านั่งพูดใส่ร้ายพี่น้องของเจ้า 7).เจ้านินทาลูกชายมารดาของเจ้าเอง 8).เจ้าได้กระทำสิ่งเหล่านี้แล้ว เราก็นิ่งเงียบ 9).เจ้าคิดว่าเราเป็นเหมือนเจ้า แต่บัดนี้เรา ก.ขนาบ(ตำหนิ)เจ้า และ ข.กล่าวโทษเจ้า” ~สดุดี 50:16-21 ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าวโบราณที่ว่า “อย่าร่วมวง กับคนจ้องจับผิด อย่าผูกมิตร กับคนพูดไม่ดี อย่าคลุกคลี กับคนชอบอิจฉา อย่าคบหา กับคนแล้งน้ำใจ อย่าอยู่ใกล้ กับคนเห็นแก่ตัว!” พี่น้องที่รัก ครับ วันนี้ให้เรามา 1.ทำตัวให้เป็นคนน่าคบหา และ 2.หลีกเลี่ยงการคบหากับคนที่ไม่สมควรคบ …จะดีไหมครับ ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 15กุมภาพันธ์2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี#SoulFoodPodcastsSpotify.…
 
พระธรรมนำชีวิต ตอน คุณให้ใครนำ? Ep.1190 ยิ่งมนุษย์เราห่างไกลจากพระเจ้ามากเท่าไหร่ชีวิตและการตัดสินใจต่างๆจะพาไปสู่ความเลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องราวของอิสราเอลยังดุเดือดเข้มข้นอยู่ 'เราจะเลือกคนอิสราเอลทุกเผ่าคัดเอาร้อยละสิบคน พันละร้อย หมื่นละพันให้ไปหาเสบียงอาหาร มาให้กองทัพ เพื่อเขาทั้งหลายจะตอบสนองความบัดสีทั้งสิ้น ซึ่งพวกกิเบอาห์ทำขึ้นในอิสราเอล เมื่อเขาทั้งหลายมาถึงเมืองกิเบอาห์ของเผ่าเบนยามิน” คนอิสราเอลทั้งสิ้นก็ร่วมใจกันยกไปสู้เมืองนั้น ' ผู้วินิจฉัย 20:10-11 คนอิสราเอลพร้อมใจกันไปจัดการคนที่ทำเรื่องน่าละอายนี้ในเมืองกิเบอาห์ แต่สิ่งที่เราเห็นคือพวกเขาจะตัดสินใจทุกอย่างโดยไม่ถามความเห็นของพระเจ้าเลย ขอให้เราจะไม่อยู่ในบริบทนี้ที่ความโกรธมันพลุ่งพลานจนเราให้พระเจ้าอยู่ข้างหลัง จน้ราพูดว่า “พระองค์เจ้าข้าฯ ลูกขอนำก่อนละกัน เดี๋ยวพระองค์ค่อยช่วยเราด้วย” แต่สิ่งดีเล็กๆที่เราเห็นคือคนอิสราเอลถามก่อน เจรจาให้ส่งคนที่ทำเรื่องเลวร้ายนั้นมาก่อน 'เผ่าต่างๆ ของอิสราเอลก็ส่งคนไปถามทั่วเผ่าเบนยามินว่า “ความชั่วช้านี้ซึ่งเกิดขึ้นในพวกท่านคืออะไร? ' ผู้วินิจฉัย 20:12 เมื่อถามแล้วคนเผ่าเบนยามินไม่ยอม แต่กลับรวบรวมคนมาเพื่อจะปกป้องตัวเองและคนเหล่านั้นเขารวมฃได้ 26,000 คน แต่คนของอิสราเอลรวมกันแล้วมีประมาณ 400,000 คน 'คนอิสราเอลลุกขึ้นไปยังเมืองเบธเอล และทูลถามพระเจ้าว่า “ผู้ใดในพวกข้าพระองค์จะขึ้นไปรบกับคนเบนยามินก่อน?” พระยาห์เวห์ตรัสว่า “ยูดาห์ก่อน” ' ผู้วินิจฉัย 20:18 สิ่งที่ผมเพิ่งพูดไปเกิดขึ้นจริงๆ ว่าทุกอย่างพวกเขาตัดสินใจไปแล้วว่าจะไปจัดการเอง แต่ก่อนไปเขาก็ถามพระเจ้าว่าใครไปก่อนดี ซึ่งพระเจ้าก็มีพระเมตตาที่จะตอบพวกเขา สรุปผลการรบครั้งแรก พวกเขาแพ้สูญเสียคนไปไม่น้อย พวกเขาก็กลับมาหาพระเจ้าอีกมาถามว่า พวกเขาควรไปจัดการกับพี่น้องตัวเองไหม พระเจ้าก็บอกให้ไป ซึ่งพวกเขาก็แพ้อีก คนอิสราเอลจึงเริ่มกลับมาใช้วิธีการที่พระเจ้าวางรูปแบบไว้ 'และฟีเนหัสบุตรเอเลอาซาร์ ผู้เป็นบุตรอาโรน ก็ปรนนิบัติอยู่หน้าหีบนั้นในสมัยนั้น เขาทูลถามว่า “สมควรที่ข้าพระองค์จะยกไปสู้รบกับคนเบนยามินพี่น้องของข้าพระองค์อีกครั้งหนึ่ง หรือควรจะหยุดเสีย?” และพระยาห์เวห์ตรัสว่า “จงยกขึ้นไปเถิด เพราะว่าพรุ่งนี้เราจะมอบพวกเขาไว้ในมือของเจ้า” 'ผู้วินิจฉัย 20:28 ปุโรหิตคนของพระเจ้าได้มาทูลถามพระเจ้า พระเจ้าก็เปิดเผยว่าพวกเขาจะชนะ ซึ่งเรื่องราวก็เป็นไปตามนั้น ขอให้เรื่องราวในวันนี้จะเป็นอุทาหรณ์ที่จะไม่พาเราไปสู่เหตุการณ์แบบนี้ ที่ใช้ความโกรธนำให้เรากลายเป็นผู้นำพระเจ้า แล้วเราเองก็เพียงขอให้พระเจ้ากลับมาเป็นผู้ช่วยแทน ขอให้เรายึดมั่นอยู่ในการเชื่อฟัง ทำตามรูปแบบที่พระเจ้าวางไว้ในทุกประการ ขอพระเจ้าเมตตาเราทุกคน วุฒิ วงศ์สรรเสริญ…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (320) สัมพันธภาพรักที่พึงมีในครอบครัว “สามีพึงสัมพันธ์กับภรรยาตามควร และ ภรรยาก็พึงสัมพันธ์กับสามีตามควรเช่นเดียวกัน” ~1 โครินธ์ 7:3 THSV11 “The husband must fulfill his [marital] duty to his wife [with good will and kindness], and likewise the wife to her husband.” ~1 Corinthians 7:3 AMP ถ้าสามีและภรรยารักกันจริงๆ และ 1.มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และ 2.ปฏิบัติต่อกันตามบทบาทหน้าที่อย่างที่พึงกระทำ ครอบครัวก็จะมีความสุข และ ห่างไกลจากความคิดหย่าร้างจากกัน! แล้วสัมพันธภาพแบบไหนล่ะ ที่ควรมีอยู่ในครอบครัวหรือชีวิตสมรส? ครอบครัวที่มั่นคง ควรเป็นครอบครัวที่ประกอบด้วยความสัมพันธ์แบบนี้ F-Faithful Relationship (สัมพันธภาพที่ซื่อสัตย์) A-Affectionate Relationship (สัมพันธภาพที่เปี่ยมด้วยความรักเสน่หา) M-Meaningful Relationship (สัมพันธภาพที่เปี่ยมด้วยคุณค่าและความหมาย) I-Intimate Relationship (สัมพันธภาพที่ใกล้ชิดลึกซึ้งสนิทแนบแน่น L-Life- Long Relationship (สัมพันธภาพที่ยั่งยืนยาวนานชั่วชีวิต) Y -Yielding Relationship (สัมพันธภาพที่อ่อนโยนยอมให้แก่กันและกัน) ใช่ครับ สัมพันธภาพในอุดมคติสำหรับสามีภรรยา ก็คือ ความสัมพันธ์ที่ประกอบและหล่อหลอม ด้วย 1.มิตรภาพและความมีน้ำใจ 2.พันธสัญญาและคำมั่นสัญญา 3.ความเป็นหนึ่งเดียวกัน 4.สวัสดิภาพและความปลอดภัย 5.ความสัตย์ซื่อและความซื่อตรง 6.ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจได้ 7.การสื่อสารดีที่มีประสิทธิภาพ 8.การแบ่งปันที่สร้างความสุขแก่กัน 9.กฎกติกาดีที่ยอมรับร่วมกัน 10.การให้อภัยที่พร้อมอยู่เสมอ 11.ความสนิทใกล้ชิดและความรักเสน่หา 12.การมีเป้าหมายมีคุณค่าและการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความหมาย พี่น้องที่รัก หากสามีภรรยา หรือครอบครัวใดมีสัมพันธภาพรักเช่นนี้ต่อกัน อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ก็รับประกันได้เลยว่า ชีวิตสมรสจะมีความสุขและความเปรมปรีดิ์ ตั้งแต่เริ่มต้นจนวันตาย! ดังนั้น ขอให้เราที่มีครอบครัวแล้ว 1.จงสร้าง และ 2.จงรักษาครอบครัวของเราให้ยืนยาวมั่นคง ด้วยการมีการสื่อสารต่อกันอย่างดี มีความรักและสัมพันธภาพที่เปี่ยมสุข ดังที่กล่าวมาแล้ว ไม่ใช่เฉพาะในวันแห่งความรัก แต่จงทำให้ทุกๆวันเป็นวันแห่งความรัก …จะดีไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 14กุมภาพันธ์2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี#SoulFoodPodcastsSpotify.…
 
พระธรรมนำชีวิต ตอน ไม่ง่ายแต่ทำได้แน่ Ep.1189 หลังจากที่ชายเลวีหั่นร่างภรรยาน้อยของเขาส่งไปทั่วทุกเผ่าในอิสราเอล อิสราเอลก็มารวมตัวกันเป็นใจเดียวกันต่อพระยาห์เวห์ที่เมืองมิสปาห์ รวมทหารได้ประมาณ 400,000 คน '(ครั้งนั้นคนเบนยามินได้ยินว่าคนอิสราเอลได้ขึ้นไปยังมิสปาห์) คนอิสราเอลกล่าวว่า “บอกเรามาว่า เรื่องชั่วร้ายนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?” ' ผู้วินิจฉัย 20:3 ชายเลวีก็ตอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ในบทที่ 19 ให้ทุกคนฟัง สิ่งที่คนอิสราเอลตอบสนองกลับมานั้นน่าจะทำให้ชายเลวีที่สูญเสียคนนี้สะใจไม่น้อยเลยทีเดียว 'ประชาชนทุกคนก็ลุกขึ้นกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “เราจะไม่กลับไปเต็นท์ เราจะไม่กลับไปบ้าน แต่นี่คือสิ่งที่เราจะทำกับเมืองกิเบอาห์ เราจะจับฉลากยกขึ้นไป รบกับเมืองนั้น ' ผู้วินิจฉัย 20:8-9 ความสะใจไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้าประสงค์จากคนของพระองค์ ความโกรธ เกลียด เคียดแค้นไม่น่าจะมีอยู่ในลูกของพระเจ้า เพราะพระเจ้าทรงสอนให้เรารักพระเจ้าสุดใจ รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง พระเยซูก็สอนเราในเรื่องการให้อภัยไว้ในการสอนให้เราอธิษฐาน 'และขอทรงยกบาปผิดของพวกข้าพระองค์ เหมือนพวกข้าพระองค์ยกโทษบรรดาคนที่ทำผิดต่อข้าพระองค์ ถ้าพวกท่านให้อภัยการล่วงละเมิดของเพื่อนมนุษย์ พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์จะทรงให้อภัยการล่วงละเมิดของพวกท่านด้วย แต่ถ้าพวกท่านไม่ให้อภัยการล่วงละเมิดของเพื่อนมนุษย์ พระบิดาของท่านจะไม่ทรงให้อภัยการล่วงละเมิดของพวกท่านเหมือนกัน ' มัทธิว 6:12 / 14-15 ผมรู้และเข้าใจว่าสิ่งที่เรากำลังพูดอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การแก้แค้น แก้ปัญหาด้วยรุนแรงเอาแต่ความสะใจไม่เคยทำให้อะไรดีขึ้น วิธีของพระเจ้าคือการให้อภัยผ่านพระเยซูเป็นวิธีที่ช่วยได้จริงๆ ขอเราจะยอมให้อภัยด้วยหัวใจแบบพระบิดาที่รักเราที่สุด ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เราทำได้แน่ เพราะพระเจ้าสถิตอยู่ในเรา พระองค์ประทานกำลังและหัวใจที่จะรักทุกคนให้กับเราแน่นอน วุฒิ วงศ์สรรเสริญ…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (319) อย่าหย่าร้างกันเลย! “พระยาห์เวห์พระเจ้าตรัสว่า “เพราะว่าเราเกลียดชังการหย่าร้าง และความทารุณ” พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ เพราะฉะนั้น จงระวังตัวให้ดี อย่าเป็นคนทรยศ” ~มาลาคี 2:16 THSV11 ““I hate divorce,” says the Lord God of Israel. “I hate the person who covers himself with violence,” says the Lord of Armies. “Be careful not to be unfaithful.”” ~Malachi 2:16 GW พระเจ้าเกลียดชังการหย่าร้าง! แล้วอะไรคือสาเหตุหลักๆของการหย่าร้าง(DIVORCE)ในครอบครัว? D ~Danger การมีภัยอันตราย หรือการสร้างความเสียหายแก่คู่สมรส I - Immorality การนอกใจ หรือการผิดประเวณีผิดต่อกัน V -Violence การใช้ความรุนแรง ทารุณหรือทำร้ายกัน O - Opposition การเป็นปรปักษ์ต่อสู้หรือ กดขี่กัน R - Renunciation การทอดทิ้ง หรือ การละเลยกัน C - Cheating การหลอกลวงหรือ การฉ้อโกงกัน E - Evil การทำสิ่งชั่วร้าย ผิดศีลธรรม หรือผิดกฏหมายกระทบชีวิตคู่สมรส เมื่อใดก็ตามที่คนใดคนหนึ่ง ในครอบครัว 1. ทรยศต่อคำสาบานในการแต่งงาน 2.ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจ หรือความไว้วางใจระหว่างกัน เมื่อนั้น ความสุขสงบในบ้านก็จะอันตรธานไป และมักนำไปสู่การหย่าร้าง! พี่น้องที่รัก 1.อย่าคิดหย่าคู่ชีวิตของคุณ! 2.อย่าทำสิ่งใดที่ทำให้เขาหรือเธอมีเหตุที่จะหย่าร้างจากคุณไป และเมื่อใดก็ตามที่คุณคิดจะหย่าจากคู่ชีวิตของคุณ ขอให้คิดใคร่ครวญถึงวันนั้นที่คุณ 1.ตัดสินใจแต่งงาน และ 2.ให้คำมั่นสัญญาและคำสาบานที่จะเคียงคู่และเคียงข้างกับกันและกัน 1).ต่อพระพักตร์พระเจ้า และ 2).ต่อหน้าครอบครัวทั้งสองฝ่ายและสักขีพยานทั้งหลาย แต่หากว่าถ้าคุณได้หย่าคู่สมรสไปแล้ว 1.คุณก็คงต้องยอมรับความจริง ~คงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อีกแล้ว (นอกจากคุณจะกลับใจทำตัวให้ดีขึ้นแล้ว กลับไปคืนดีกัน และแต่งงานกันใหม่อีกครั้ง) 2.คุณควรจะเป็นคนโสดที่เดินหน้าต่อไป โดยถวายชีวิตติดตามรับใช้พระเจ้า 1).อย่างมีคุณค่า และ 2).อย่างมีความสุข และ 3).อย่างเกิดผลต่อไป โดยไม่ต้องแต่งงานใหม่ …เห็นด้วยไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 13กุมภาพันธ์2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี#SoulFoodPodcastsSpotify.…
 
พระธรรมนำชีวิต ตอน เกินบรรยาย Ep.1188 เรื่องราวความเสื่อมของคนอิสราเอลและของชายเลวีคนนี้ยังไม่จบ หลังจากที่เขาไปพักบ้านของผู้อาวุโสในขณะที่พวกเขากำลังสนุกสนานอยู่ คนเมืองนั้นก็มาล้อมบ้านบอกให้ผู้อาวุโสส่งคนเลวีออกมาให้พวกเขาข่มขืน แต่ผู้อาวุโสไม่ยอม ท่านขอแลกเป็นลูกสาวที่ยังพหรมจารีอยู่และภรรยาของคนเลวีนั้นแทนได้ไหม แต่คนอันธพาลเหล่านั้นไม่ยอม เมื่อเหตุการณ์คับขันคนเลวีก็ผลักภรรยาน้อยของตนออกไป คนเหล่านั้นก็ข่มขืนเธอจนเช้า แล้วเธอก็กลับมาแน่นิ่งที่หน้าบ้านผู้อาวุโส ชายเลวีนั้นก็อุ้มร่างของเธอกลับบ้าน เมื่อถึงบ้านเขาก็หั่นเธอเป็น 12 ท่อนส่งไปให้อิสราเอลทุกเผ่า 'ทุกคนที่เห็นก็พูดว่า “เรื่องอย่างนี้ไม่มีใครเคยพบเคยเห็นตั้งแต่สมัยคนอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์จนถึงวันนี้ จงตรึกตรองปรึกษากันดูแล้วก็ว่ากันไปเถิด”' ผู้วินิจฉัย 19:30 เมื่อคนไม่เอาพระเจ้า ไม่เชื่อฟังพระองค์ความเลวร้ายที่เกิดขึ้นก็เกินกว่าจะบรรยาย เรื่องแบบนี้เคยบันทึกไว้ในตอนที่ชาวเมืองโสโดมขอให้โลทส่งชายทั้งสองออกมาให้เขาข่มขืน เรื่องนี้ก็อยู่ในปฐมกาลบทที่ 19 เช่นเดียวกัน ตอนนี้ผู้วินิจฉัย 19 คนอิสราเอลก็ทำสิ่งชั่วในสายพระเนตรของพระเจ้าไม่ต่างอะไรกํบคนต่างชาติแล้ว ขอให้เรื่องราวนี้จะเป็นบทเรียนที่เราจะรักษาความสัมพันธ์กับพระเจ้าด้วยความรัก ความยำเกรงและการเชื่อฟังทุกประการ 'วิบัติแก่พวกที่เรียกความชั่วว่าความดี และเรียกความดีว่าความชั่ว พวกที่ถือว่าความมืดคือความสว่าง และความสว่างคือความมืด พวกที่ถือว่าความขมคือความหวาน และความหวานคือความขม ' อิสยาห์ 5:20 อย่าให้วิบัตินี้เกิดขึ้นกับเราเลย ในพระธรรมโรมบอกว่าพระเจ้าจะปล่อยคนให้ทำการโสโครกตามราคะตัณหาในใจของเขา แต่เมื่อหมดเวลาพวกเขาจะโดนพิพากษาตัดสิน 'มนุษย์เอ๋ย พระองค์ทรงสำแดงแก่เจ้าแล้วว่าอะไรดี? และพระยาห์เวห์ทรงประสงค์อะไรจากเจ้า? นอกจากให้ทำความยุติธรรมและให้รักความเมตตา และให้ดำเนินชีวิตไปกับพระเจ้าของเจ้าด้วยความถ่อมใจ ' มีคาห์ 6:8 วันนี้พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์ด้วยการถ่อมพระองค์ลงมาเกิดในโลกมนุษย์เพื่อนำเรากลับมาเป็นลูกของพระองค์ มาอยู่ในพระประสงค์ของพระเจ้า มาดำเนินตามทางของพระเจ้า ขอให้เราระมัดระวังรักษาชีวิตในพระเยซูของเราไว้ให้ดี อย่าให้ชีวิตตกต่ำเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ วุฒิ วงศ์สรรเสริญ…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (318) เลือดที่ช่วยชีวิต! “เพราะว่านี่เป็นโลหิตของเราอันเป็นโลหิตแห่งพันธสัญญา ที่หลั่งออกเพื่อยกบาปโทษคนจำนวนมาก” ~มัทธิว 26:28 THSV11 “This is my blood of the covenant, which is poured out for many for the forgiveness of sins.” ~Matthew 26:28 NIV 'เจมส์ แฮร์ริสัน' ช่วยชีวิตทารกไว้มากกว่า 2.4 ล้านชีวิต ตลอด 60 ปีของการบริจาคโลหิตของเขา เขาถูกขนานนามว่า เป็น “ชายผู้มีแขนทองคำ” เพราะมี“เลือดพิเศษ”ที่สามารถนำไปช่วยทารกในครรภ์ให้รอดชีวิตจากโรคเม็ดเลือดแดงแตกสลายได้ เลือดของเจมส์ได้รับการทดสอบว่า เป็นเลือดที่ “มีค่ามากที่สุดในโลก!“ เนื่องจากพลาสมาของเขามีแอนติบอดี้ที่คุณสมบัติพิเศษ สามารถนำไปผลิตยาที่รู้จักกันในชื่อ Anti-D ซึ่งช่วยปกป้องทารกในครรภ์จากการเสียชีวิตด้วยโรคเม็ดเลือดแดงสลายตัว ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของทารกออสเตรเลียหลายพันรายในแต่ละปี เมื่อเจมส์ทราบว่า เลือดของเขามีแอนติบอดี้ที่สามารถป้องกันการโจมตีโดยเลือดของแม่ที่มี Rh ลบต่อทารกในครรภ์ที่มีเลือด Rh บวก เขาจึงบริจาคเลือดต่อเนื่องอย่างมีความสุขและมีความยินดี สลับกับการบริจาคพลาสมาเพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้อื่นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เจมส์ เคยเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ช่องอกในปี 1951 เมื่อตอนอายุ 14 ปี ซึ่งเขาเองได้รับเลือดจากผู้บริจาคโลหิตซึ่งช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ดังนั้น หลังการผ่าตัดครั้งนั้นประสบความสำเร็จด้วยดี เขาก็ตั้งภารกิจของชีวิตเอาไว้ว่า เขาจะบริจาคโลหิต! และ 4 ปีต่อมา เมื่อเขาอายุครบ 18 ปี เขาก็บริจาคโลหิตในทันที (ถึงแม้ว่าเขาจะกลัวเข็มฉีดยาก็ตาม) ต่อมาเขาได้กลายเป็นผู้บุกเบิกโครงการ Anti-D ที่สำคัญอย่างยิ่ง อันAnti-D อิมมูโนโกลบิน ผลิตขึ้นจากพลาสมาของผู้บริจาคโลหิตที่เลือดมีคุณสมบัติพิเศษ อย่าง อย่างเช่น เลือดของเจมส์ ซึ่งจะถูกฉีดให้กับแม่ที่ตั้งครรภ์ที่มีหมู่เลือด Rh ลบ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายของแม่ผลิตแอนติบอดี้ที่จะทำอันตรายต่อทารกในครรภ์ซึ่งมีเลือดเป็น Rh บวก จากการที่ร่างกายเข้าใจว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมเช่นเดียวกับไวรัสหรือแบคทีเรีย โดยแอนติบอดี้ที่ถูกผลิตออกมาจะทำลายเม็ดเลือดแดงของทารก ซึ่งทำให้ทารกต้องทุกข์ทรมานกับภาวะโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงสลายตัว (Hemolytic Anemia) ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิต วันที่ 11 พฤษภาคม 2018 เป็นวันที่เจมส์ในวัย 81 ปี บริจาคเลือดเป็นครั้งสุดท้าย! หลังจากที่เขาอุทิศตัวบริจาคเลือดมาตลอด 60 ปี และสร้างสถิติโลกด้วยการบริจาคเลือดมากถึง 1,173 ครั้ง โดยเลือดที่มีคุณสมบัติพิเศษของเขาได้ถูกนำไปผลิต Anti-D มากกว่า 3 ล้านโดส และช่วยรักษาชีวิตทารกออสเตรเลียไว้มากกว่า 2 ล้าน 4 แสนชีวิต . ในปี 1999 เจมส์ได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติและยกย่องให้เป็นวีรบุรุษของชาติสำหรับการบุกเบิกและสนับสนุนโครงการ Anti-D . หากไม่มี Anti-D ที่ผลิตจากแอนติบอดี้ในเลือดของเจมส์ แม่ที่ตั้งครรภ์จำนวนมากอาจต้องแท้งลูกหลายครั้ง หรือหากทารกคลอดออกมาสำเร็จ เด็กก็จะมีการทำงานของสมองที่ไม่ปรกติ หรือเป็นโรคโลหิตจางตั้งแต่กำเนิด 'เจมส์ แฮร์ริสัน‘ กล่าวในระหว่างการบริจาคเลือดครั้งสุดท้ายว่า “มันเป็นวันที่น่าเศร้ามากสำหรับผม ที่จะต้องหยุดบริจาคเลือด หลังจากที่ผมได้ทำมายาวนาน ผมหวังที่จะให้มีคนทำลายสถิติของผม เพราะมันหมายถึงว่า พวกเขาอุทิศตัวให้กับสิ่งที่ดี!” น่าชื่นชมที่โลหิตของ 'เจมส์ แฮร์ริสัน‘ ได้ช่วยชีวิตของเด็กทารกมา2.4ล้านคน แต่น่าเสียดายที่เขาไม่อาจช่วยใครได้อีกแล้ว! แต่ข่าวดีก็คือ โลหิตขององค์พระเยซูคริสต์ อันเป็นโลหิตแห่งพันธสัญญาของพระเจ้า ที่หลั่งออกเพื่อยกโทษบาปนั้นสามารถช่วยชีวิตจิตวิญญาณของ 1.คนนับไม่ถ้วนในอดีต 2.คนหลายพันล้านคนในปัจจุบันนี้ และ 3.คนอีกจำนวนมากมายในอนาคต พี่น้องที่รัก วันนี้ 1).คุณได้รับความช่วยชีวิตจากโลหิตของพระเยซูคริสต์แล้วหรือยัง? และ 2).คุณเองได้ช่วยผู้ใดให้รอดพ้นความตายนิรันดร์ผ่านโลหิตของพระคริสต์แล้วหรือไม่? อย่าปล่อยให้โอกาสนี้ หลุดหายไปเลย …จะดีไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 12กุมภาพันธ์2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี#SoulFoodPodcastsSpotify.…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (317) อธิษฐานเปลี่ยนพระทัยพระเจ้า? “ใครจะรู้ได้ พระองค์อาจทรงกลับมาและเปลี่ยนพระทัย ทั้งทรงเหลือพรไว้ข้างหลัง คือให้มีธัญบูชาและเครื่องดื่มบูชา ถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน” ~โยเอล 2:14 THSV11 “Who knows whether he will have a change of heart and leave a blessing behind him, a grain offering and a drink offering for the LORD your God?” ~Joel 2:14 CEB ไม่น่าเชื่อว่าพระเจ้าอาจเปลี่ยนพระทัยได้ ถ้าเราอธิษฐานด้วยสุดใจอย่างจริงใจ ทั้งๆที่พระเจ้าไม่ทรงเปลี่ยนแปลงและ ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงพระองค์ได้! อย่างไรก็ตาม มีตัวอย่างอยู่ไม่น้อยที่ยืนยันว่าพระเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงพระทัย! ตัวอย่างที่1: พระเจ้าจะทำลายชาวอิสราเอลที่ทำบาป(อพยพ 32:7-10) “พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า ‘เราได้เห็นชนชาตินี้แล้ว และดูสิ เขาเป็นชนชาติที่หัวแข็ง บัดนี้ ขออย่ายับยั้งเรา เพื่อความโกรธของเราจะเดือดพลุ่งขึ้นต่อพวกเขา และเพื่อเราจะทำลายเขาทั้งหลายเสีย ส่วนเจ้า เราจะให้เป็นชนชาติใหญ่”” ~อพยพ 32:7-10 THSV11 แต่แล้วเมื่อโมเสสกราบทูลวิงวอนพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ทำไมพระองค์จึงกริ้วยิ่งนักต่อประชากรของพระองค์ ซึ่งทรงนำออกจากแผ่นดินอียิปต์ ด้วยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ และด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์เล่า? ทำไมโปรดให้คนอียิปต์กล่าวว่า ‘พระองค์ทรงนำพวกเขาออกมาเพื่อจะทรงทำร้ายพวกเขา เพื่อจะทรงประหารพวกเขาที่ภูเขาและทำลายพวกเขาเสียจากแผ่นดิน’? ~ขอพระองค์ทรงหันกลับจากพระพิโรธอันแรงกล้า และ ~ขอเปลี่ยนพระทัยอย่าทำอันตรายประชากรของพระองค์ ~ขอทรงระลึกถึง อับราฮัม อิสอัค และอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์ พระองค์เองทรงปฏิญาณกับเขาเหล่านั้นว่า ‘1).เราจะให้เชื้อสายของเจ้าทั้งหลายทวีขึ้นเหมือนดังดวงดาวในท้องฟ้า และ 2).เราจะยกแผ่นดินนี้ทั้งหมดที่เราสัญญาให้แก่เชื้อสายของพวกเจ้า และ พวกเขาจะรับไว้เป็นมรดกตลอดไป’ ” พระยาห์เวห์ก็ทรงเปลี่ยนพระทัย คือ ไม่ทรงทำอันตรายประชากรของพระองค์อย่างที่มีพระดำริไว้!” ~อพยพ 32:11-14 THSV11 เหลือเชื่อ พระยาห์เวห์พระเจ้าเปลี่ยนพระทัย! จริงๆแล้ว พระเจ้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงพระองค์เองเพราะคำทักท้วงหรือคำอธิษฐานของโมเสส เพราะพระเจ้าทรงประสงค์จะนำคนอิสราเอลทั้งหมดเข้าแผ่นดินพระสัญญาอย่างปลอดภัยอยู่แล้ว แต่เนื่องจากบาปของพวกเขา พวกเขาจึงจะต้องถูกจัดการ อย่างไรก็ตาม พระเจ้าทรงเมตตาเปลี่ยนพระทัยไม่เลือกการลงโทษหนักที่สุดสำหรับพวกเขา ตัวอย่างที่2 : พระเจ้าจะทำลายชาวนีนะเวห์ที่ทำบาป(โยนาห์ 3:6-10 ) “เมื่อข่าวนี้ลือไปถึงกษัตริย์แห่งนีนะเวห์ 1.พระองค์ทรง ~ลุกขึ้นจากพระที่นั่ง และ ~เปลื้องฉลองพระองค์ออก แล้วทรง ~สวมผ้ากระสอบแทน และ ~ประทับบนกองขี้เถ้า 2.พระองค์ทรงออกพระราชกฤษฎีกา ประกาศไปทั่วนครนีนะเวห์ว่า “โดยอำนาจกษัตริย์และขุนนางทั้งหลาย 1).ให้คนหรือสัตว์เลี้ยงไม่ว่า ขนาดใหญ่หรือ ขนาดกลาง อย่าลิ้มรสสิ่งใด อย่ากินอาหาร และ อย่าดื่มน้ำ 2).ให้ทั้งคนและสัตว์เลี้ยง ก.นุ่งห่มผ้ากระสอบ ข.ให้ร้องทูลต่อพระเจ้าอย่างจริงจัง เออ 3).ให้ทุกคน ก.หันกลับจากการประพฤติชั่ว และ ข.เลิกการทารุณซึ่งมือพวกเขาทำ ใครจะรู้ได้? ~พระเจ้าอาจจะทรง ก.หันและ ข.เปลี่ยนพระทัย ~พระองค์อาจจะทรงหันจากพระพิโรธอันรุนแรง เพื่อเราจะไม่พินาศ” พระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า “เมื่อพระเจ้าทอดพระเนตรการกระทำของพวกเขาที่ได้หันจากการประพฤติชั่ว 1.พระเจ้าก็เปลี่ยนพระทัยเรื่องความหายนะที่พระองค์ตรัสว่าจะนำมาสู่พวกเขา 2.พระองค์ไม่ทรงลงโทษเขา” ~โยนาห์ 3:6-10 THSV11 ใช่ครับ พระเจ้าทรงเปลี่ยนพระทัย! ขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้าทรงรักเมตตาคนของพระองค์เสมอมา เมื่อพวกเขากลับใจใหม่อย่างแท้จริง แม้ว่าพวกเขาจะทำผิดบาปให้พระองค์เสียพระทัยอยู่เสมอมา ดังนั้น ขอให้เราจง 1.หมั่นสำรวจและ 2.ดูแลตัวเองให้อยู่ในน้ำพระทัยและพระประสงค์ของพระเจ้าไว้เสมอแล้ว 1).เราจะปลอดภัย และ 2).คำอธิษฐานของเรา จะได้รับการสดับและตอบสนองในเชิงบวกจากพระองค์ …เห็นด้วยไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 11กุมภาพันธ์2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี#SoulFoodPodcastsSpotify.…
 
พระธรรมนำชีวิต ตอน เสื่อม Ep.1187 เรื่องราวในพระธรรมผู้วินิจฉัยใน 3 บทสุดท้ายเรื่องราวเดียวกันที่ยาวพอสมควร ในบทที่ 19:1-21 ได้เริ่มต้นด้วยการชี้ให้เห็นว่า คนอิสราเอลยังไม่มีผู้นำของพระเจ้าจึงทำให้สังคมตกต่ำลง แม้แต่คนของพระเจ้า ชายเลวีที่อาศัยอยู่ในแดนเทือกเขาเอฟราอิม เขารับหญิงจากเบธเลเฮมเป็นภรรยาน้อย แต่เธอนอกใจและหนีกลับบ้านพ่อของเธอ หลังจากเวลาผ่านไปสี่เดือน ชายเลวีเดินทางไปตามเธอกลับมา พ่อของหญิงสาวพยายามหน่วงเหนี่ยวให้เขาอยู่ต่อถึงห้าวัน 'จิตใจก็เป็นตัวล่อลวงเหนือกว่าสิ่งใดทั้งหมด มันเสื่อมทรามอย่างร้ายทีเดียว ใครจะรู้จักใจนั้นเล่า? “เราคือพระยาห์เวห์ตรวจค้นดูจิต และทดสอบดูใจ เพื่อให้แก่ทุกคนตามพฤติการณ์ของเขา ตามผลแห่งการกระทำของเขา” ' เยเรมีย์ 17:9-10 แม้ว่าคนอิสราเอลจะไม่มีผู้นำที่เป็นบุคล แต่เขามีพระเจ้าที่นำเขามาเสมอ แต่พวกเขาไม่เชื่อฟัง ขอให้เราจะระมัดระวังรักษาชีวิตของเราให้เป็นไปตามพระทัยของพระเจ้า เพราะพระเจ้าจะตอบสนองต่อทุกคนตามสิ่งที่เขาทำ เมื่อคนเลวีออกเดินทางจากบ้านพ่อตา เขาผ่านเมืองเยบุสหรือเยรูซาเล็ม แต่เขาเลือกไม่พักในเมืองของคนต่างชาติ เขามุ่งหน้าต่อยังเมืองกิเบอาห์เมืองของเผ่าเบนยามิน เมื่อไปถึงไม่มีใครต้อนรับพวกเขา ตามธรรมเนียมตะวันออกโบราณ คนเดินทางควรได้รับการต้อนรับจากผู้อื่น นี่แสดงถึงสภาพสังคมที่เสื่อมถอยของคนอิสราเอล แต่ในเย็นวันนั้นผู้อาวุโสคนหนึ่งในกิเบอาห์เชิญพวกเขาเข้าบ้าน และเตรียมอาหารให้ 'อย่าละเลยที่จะต้อนรับแขกแปลกหน้า เพราะว่าโดยการทำเช่นนั้น บางคนก็ได้ต้อนรับทูตสวรรค์โดยไม่รู้ตัว ' ฮีบรู 13:2 สิ่งที่พระวจนะของพระเจ้าสอนเราคือ ให้เราต้อนรับแขกผู้มาเยือนให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ พระเยซูก็สอนเราในเรื่องนี้ด้วย 'เวลานั้นพระองค์จะตรัสตอบว่า ‘เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า การที่พวกท่านไม่ได้ทำกับผู้เล็กน้อยที่สุดสักคนหนึ่งในพวกนี้ ก็เหมือนไม่ได้ทำกับเราด้วย’ ' มัทธิว 25:45 ขอให้เราดูแลทุกคนที่เราสามารถจะมีส่วนในชีวิตของเขา แม้ว่าคนนั้นจะคนเล็กน้อยที่สุด แต่การดูแลหรือทำแบบนั้นก็เหมือนการดูแลปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา วุฒิ วงศ์สรรเสริญ…
 
Loading …

مرحبًا بك في مشغل أف ام!

يقوم برنامج مشغل أف أم بمسح الويب للحصول على بودكاست عالية الجودة لتستمتع بها الآن. إنه أفضل تطبيق بودكاست ويعمل على أجهزة اندرويد والأيفون والويب. قم بالتسجيل لمزامنة الاشتراكات عبر الأجهزة.

 

icon Daily Deals
icon Daily Deals
icon Daily Deals

دليل مرجعي سريع

استمع إلى هذا العرض أثناء الاستكشاف
تشغيل